เติบโตอย่างสดใสกับอัลบั้มใหม่ ‘PSSST!’ จาก Daynim

เติบโตอย่างสดใสกับอัลบั้มใหม่ ‘PSSST!’ จาก Daynim

Writer: Montipa Virojpan

daynim วงดนตรีแสบซ่ามาแรงที่ก่อนหน้านี้เคยฝากผลงานอัลบั้มแรกแสนเก๋สไตล์ neo soul, r&b ร่วมสมัยใน ‘final_sketch_001.mp3’ ให้เราได้ฟังกันเมื่อปี 2022 ภายใต้ค่าย Smallroom กลับมาหนนี้ เพลง เก็ต กานต์ และโซ่ ก็พร้อมพรีเซนต์รัศมี YEEZAA ในอัลบั้มใหม่ล่า ‘PSSST!’ ซึ่งเพิ่งปล่อยออกมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อคืนนี้ 14 เพลงยังคงผสานกลิ่นอาย r&b ที่พวกเขาถนัดและแทรกฮิปฮอปเพิ่มเข้าไป Transmission เลยชวนทั้งสี่คนมาเล่าเบื้องหลังการทำงานในอัลบั้มที่ฟังสนุกสุด ๆ ชุดนี้แบบไม่มีกั๊ก

สมาชิก daynim

สมาชิก daynim
เพลง—วัศยา ตรรกไพจิตร (ร้องนำ)
เก็ต—สิรายุ เลิศสงคราม (เบส)
กานต์—ณัฐภัทร เลิศสงคราม (กลอง)
โซ่—สิริวัชร ขนอม (กีตาร์)

YEEZAA Production

เพลง: จริง ๆ ทีมที่ทำเพลงด้วยกันอยู่แล้วก็คือ YEEZAA (อ่านว่า ยี-ซา) การทำอัลบั้มนี้ก็เหมือนเราจบงานได้ด้วยตัวเองมากกว่า

เก็ต: ช่วงแรก ๆ ก่อนจะถูกเรียกเป็น YEEZAA จริง ๆ มันเป็นโปรดักชันที่เก็ต พี่ยิ้ม (ประวิทย์ ฮันสเตน โปรดิวเซอร์) เพลงที่ช่วยดูเนื้อร้อง แล้วก็โซ่ก่อนที่จะทำงานประจำ ทำด้วยกันอยู่แล้วเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ซึ่งเราก็เหมือนเป็น daynim กันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ความสนุกอยู่ในสายเลือด

เก็ต: เพลงชุดนี้สนุกขึ้น เขาเรียกว่า ‘เลือดอีสานมันข้น’ มันข้นด้วยความเป็นวัฒนธรรม แนวดนตรีอะไรแบบนี้ ไม่ต้องไปฝืนทำอะไรที่ไม่ใช่เรา แล้วก็ทำจากประสบการณ์ที่เรามี ทั้ง daynim เป็นเด็กต่างจังหวัดกันหมด ผมกับกานต์เป็นพี่น้องกัน คนกาฬสินธุ์ เพลงคนเชียงใหม่ โซ่คนนครศรีธรรมราช เพลงที่เราฟังตั้งแต่เด็กก็จะเป็นอะไรที่ได้ยินตามบ้าน แบบบ้าน ๆ อะ อย่างพี่ยิ้มเป็นคนที่ฟังเพลงโคตรเยอะ เพลงก็ฟังเพลงต่างประเทศเยอะ แต่สุดท้ายแล้วมันก็จบด้วยการที่ใครชอบแบบไหนก็เอามาผสมกัน

เพลง: ถ้าพูดถึงองค์ประกอบก็มีแซมป์ที่พี่ยิ้มยกมาใช้ อย่างการแหล่อะไรงี้สอดแทรกอยู่ในนั้น แต่มันดันอยู่กับโครงสร้างเพลง twelve-bar blues ได้เฉย

กานต์: อย่าง ‘Sunkissed’ ก่อนหน้านี้ฟีลไฮสคูลเด็กเมกันมาก อยู่ดี ๆ เราอยากให้เพลงนี้หมอลำ เราก็หาอะไรม่วน ๆ มาใส่ ทรงอะไรบางอย่างให้มัน contrast กัน

เก็ต: เจอกีตาร์โซ่เข้าไปก็ซิ่ง

Concept Album

เพลง: ในฐานะหนึ่งในคนแต่งเพลงก็มองว่าเนื้อหาเป็นกลุ่มก้อนไปในทิศทางเดียวกันมากกว่าชุดก่อน คืออัลบั้มที่แล้วเหมือนเพลงไม่ได้มาก้อนเดียวพร้อมกัน ทุกเพลงเหมือนเซ็ตไวบ์หรือมู้ดบางอย่างไว้ แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการเล่าให้เป็นเนื้อเดียวกันหรือไม่ได้เชื่อมโยงกันเท่าไหร่ พอชุดนี้เพลงก็ตั้งใจให้มันเป็นคอนเซ็ปต์แหละ เพราะพอได้ทุกแทร็กมามันก็ง่ายต่อการทำขั้นตอนต่อไปเรื่อย ๆ ว่าอันนี้คอนเซ็ปต์นี้ อยากให้เล่าเรื่องนี้ คนที่มีส่วนในพาร์ตทำวิชวล อาร์ต เขาก็จะเอาไปเวิร์กต่อได้เพราะคอนเซ็ปต์มันชัดเจน เราไม่ต้องหาอะไรมาคุมมันทีหลัง เพลงมองว่า(การทำวง)มันเป็นงานกลุ่มด้วยอย่างนึง เพราะไม่ใช่เราทุกคนที่ทำได้ทุกหน้าที่ในงานนี้

เก็ต: เราทำงานเป็นก้อนใหญ่ทีเดียวทั้งหมด จบเสร็จ ไม่โชว์ ไม่ทำอะไรเลยในช่วงนั้น เครื่องดนตรีท่ีใช้ก็หยิบยืมมาจากบางเพลงในอัลบั้มเดียวกัน

กานต์: พอทำอะไรทุกอย่างในช่วงเดียวกัน มันก็ไปในทิศทางเดียวกันได้ง่ายด้วย แต่ก็ไม่ได้ไปฝืนคุมขนาดนั้น มีคนนึงที่ทำ concept album ได้แข็งแรงมาก แล้วผมค่อนข้างชอบเลย ก็คือ YOUNGOHM อัลบั้ม ‘ธาตุทองซาวด์’ คือเฟี้ยว

PSSST!’

เพลง: ที่ตั้งชื่ออัลบั้มว่า ‘PSSST!’ (ออกเสียงว่า พซึ!) เพราะว่าชื่อนี้เหมือนเป็นการเรียกร้องความสนใจในแบบที่ไม่ได้ตะโกน ไม่โฉ่งฉ่างมาก เพลงไปเสิร์ชอินเทอร์เน็ตมาเจอว่ามันเป็นเสียงที่เขาใช้เรียกแมว แล้วส่วนใหญ่เราก็เป็นทาสแมวกัน ถ้าทำเสียงแบบนี้แล้วแมวมันจะหันมามอง อันนี้ก็เหมือนเราแค่ต้องการให้คนฟังหันมามองเราเฉย ๆ เหมือนที่เพลงยังมองเพลงของ daynim ว่าเป็นเพลงป๊อปนะ แค่ไม่อยากให้เนื้อหาเป็นเรื่องราวทั่ว ๆ ไปที่ใครก็ relate ได้ เราอยากให้คนได้คิดตามสิ่งที่เราสอดแทรกเข้าไป

ต้นไอเดียของอัลบั้มเลยคือ ตอนที่เริ่มทำ ซีรีส์เรื่อง ‘Sex Education’ กำลังบูม แล้วเพลงชอบดูมาก จะเรียกว่าเป็นซีรีส์ที่ป๊อปก็ได้แหละเพราะทุกคนดูได้ วิธีการเล่าสนุก ตัวละครสนุก คอสตูมสวย ภาพทุกอย่างดี เพลงชอบดูอะไรพวกนั้นอยู่แล้วแต่สุดท้ายมันก็ยังสอดแทรกเรื่องราวในวัยรุ่น ครอบครัว เซ็กซ์ที่มันพยายามจะสอน ไม่โรแมนติไซส์หนังคลาสสิกยุคก่อน ๆ ที่เราจะรู้สึกว่า หนังมันไม่ใช่ชีวิตจริง แต่เรื่องนี้มันดูเป็นชีวิตจริงมากขึ้น นัดมามีเซ็กซ์กัน ดีลกัน เกิดปัญหาในโรงเรียน เพลงรู้สึกว่ามันเรียลขึ้น แล้วก็อยากเอามาเป็นแบบอย่างในการเล่าเรื่องของอัลบั้มนี้ เพลงก็อยากจะเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอมา แล้วก็เรื่องที่เราเห็น ๆ ในประเทศไทยด้วย การบุลลี่หน้าตาทั่วไป เรื่องเซ็กซ์ consent ก็อยู่ในนี้ การเป็นเด็กต่างจังหวัดกันแล้วมาอยู่ในสังคมเมืองหลวง เรื่องครอบครัวนิดนึง ก็สอดแทรกเรื่องราวเหล่านันในวิธีการเล่าแบบป๊อป

Level Up

เพลง: พี่ยิ้มให้เราไปเวิร์กในพาร์ตตัวเองกันก่อนที่จะมาทำเดโม่ ทุกคนก็รีเสิร์ชหนัก แนวเพลงแต่ละเพลงมันค่อนข้างกระจาย พี่ยิ้มก็ศึกษาวิธีการทำดนตรีของศิลปินแต่ละแนว อย่างเช่นฮิปฮอป ศึกษาแม้กระทั่งว่าโปรดิวเซอร์เบอร์ใหญ่ ๆ แนวคิดในการทำเขาเป็นยังไง เพราะเราต้องทำเพลงฮิปฮอปจัด แทร็ปจัด แล้วเราไม่ได้มีเซนส์ทางนั้นขนาดนั้น

กานต์: ‘Hip Hop Revolution’ ปะ? มี Pharrell Williams คนนึง พวกแอตแลนต้าที่ทำแซมป์จากแผ่นไวนิล (เก็ต: J Dilla ไปดิ๊กแซมป์ที่ห้องเก็บไวนิลใต้ดินไรงี้) อยากลองทำแนวใหม่ ๆ ด้วย พี่ยิ้มก็นำเสนอแนว new jack swing ให้ฟัง ผมก็ไม่รู้จักมาก่อน กลองมันตีอย่างงี้นะ ก็เฟี้ยวดี TLC ไรงี้ ก็คิดว่า ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อเพลง ‘Invitation’ มาก แล้วเป็นช่วงที่เราก็ดูซีรีส์ ‘Sex Education’ ด้วยก็คิดว่าเออ ลุยเพลงแรกเลย

เพลง: เราเก็บสมองรวบรวมทุกอย่างไว้แล้วค่อยมาตู้มทีเดียว แต่พอมาทำจริง ๆ แล้วไอเดียเรามีเยอะ คอนเซ็ปต์เรามีเยอะ แต่บางทีเหมือนสกิลเราไม่ถึงมันก็ต้องถอยออกมานิดนึงเพื่อที่ไปเก็บสกิลเพิ่ม หรือเกิดการยืมเครื่องดนตรีเพราะเราไม่มีเครื่องดนตรีที่เหมาะสมสำหรับเพลงนี้ อย่างเช่นการยืมเบส ยืมไมค์ ก็จะมีอุปสรรคเรื่องนี้เข้ามาตั้งแต่เดโม่ ไฟนัลเดโม่ อัดเพลงจริงจัง

เก็ต: เราต้องไปหายืมเบส ยืมกีตาร์ เพื่อใช้อัดเพลง หลังจากนั้นก็คือเนิร์ด ศึกษาอะไรต่าง ๆ เรา matching ไมค์ในแต่ละเพลงไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งวิธีการมิกซ์เอง

กานต์: หรืออย่างแค่การตีไรด์ใบเดียว ผมกับพี่ยิ้มเป็นมือกลอง แต่ไม่สามารถตีไรด์ตามเสียงที่ต้องการได้ ก็นั่งคิดว่าจะมีใครตีไรด์ให้ได้เสียงแบบนี้ในประเทศไทยบ้างวะ แต่จนสุดท้ายก็หาได้ เป็นเพลงที่เสียงไรด์ที่เพราะที่สุดเพราะมันตีอยู่อย่างเดียว (หัวเราะ)

เพลง: ใช้ทรัพยากรเปลืองจัด

เก็ต: หรืออย่างการชวนเพื่อน ๆ มาร้องด้วย มันเป็นเรื่องของจริตในแต่ละเพลงที่เราอยากให้มีหลายคนมาร่วมแจม อย่าง ‘My Type’ เราก็อยากได้หลาย ๆ เพศ เพราะเพลงเองก็ฝืนทำตัวเป็นหลายตัวละครไปหลายเพลงแล้ว

เพลง: ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถจะมีคาแร็กเตอร์ที่ 11 หรือ 12 ไปได้เรื่อย ๆ แล้ว อยากให้มีหลาย ๆ ตัวละครสุด ๆ ไปเลยในนั้น ก็หนุกดี

เก็ต: อาจจะขอร้องคนเดียว บั้มหน้า คนอื่นไม่ต้องร้องแล้ว (หัวเราะ)

Daynim

Track by Track

INVITATION’ feat. GEEGABOK

เพลงนี้เหมือนเป็นการชวนทุกคนมาสนุกกับเรา เป็นเพลงเซ็ตมู้ดของอัลบั้มที่ไม่ว่าใครที่รู้สึกแปลกแยก ไม่เป็นไปตามสิ่งที่สังคมคาดหวัง หรือมีล้านสิ่งที่ตั้งข้อสงสัยแต่ไม่เคยได้คำตอบจนเกือบจะล้มเลิกไป daynim อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่าอย่าหยุดเป็นตัวเอง แล้วมาร่วมปาร์ตี้ด้วยกันก่อน

SUNKISSED’

พูดถึงการเลือกเคารพร่างกายของตัวเอง ซึ่งมักจะเป็นปัญหาที่ถูกตีกรอบโดยวัฒนธรรมเอเชียน พ่อแม่บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยกับการที่ลูกสาวเผยเนื้อหนังที่มากเกินไป ทั้งที่ควรจะเป็นสิ่งปกติในประเทศเมืองร้อน ไปจนถึงเรื่องการรักนวลสงวนตัวที่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องที่ใครต้องมารับผิดชอบ แค่ต้องเกิดจากความยินยอมทั้งสองฝ่าย

SMILE CLUB’ feat. thaimilktea

กานต์: เพลงพูดถึงการบุลลี่หรือความอัปลักษณ์ของร่างกายคน ก็เป็นอะไรที่เชื่อมโยงกับแมวพี่ยิ้มที่อยู่ใน mv เป็นแมวตัวสุดท้ายของฟาร์ม ลายน่าเกลียดสุดคนเลยไม่มีใครเอาไปเลี้ยงจนเจ้าของฟาร์มมาถามพี่ยิ้มว่าเอาตัวนี้ไปเลี้ยงไหม พี่ยิ้มก็ต้องเอาไปเลี้ยง

PBNJ’

คนอาจจะมองว่าแซนด์วิชที่ทาเนยถั่วและแยมผลไม้รวมกัน (peanut butter and jam หรือ PB&J) เป็นเมนูที่ถ้าคนชอบก็ชอบเลย แต่ถ้าอี๋ก็อี๋เลย เพราะมันดูไม่เข้ากันสักนิด วงก็นำเอาทั้งรสชาติและสีของสองสิ่งมาตีความถึงการมองโลกที่ถือว่าค่อนข้างมีศรัทธาต่อเพื่อนมนุษย์ โดยมองว่าสุดท้ายแล้วเราจะสามารถอยู่ร่วมกันในกระแสความคิดที่แตกต่างอันเชี่ยวกรากได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย

‘WHAT IF SIRAYU DRESSES LIKE BEYONCE’  feat. guideyik

Spoken word ที่สนับสนุนให้ทุกคนแต่งตัวได้ตามใจ เป็นตัวของตัวเอง อยากใส่อะไรก็ใส่ อย่าให้เสื้อผ้ามากำหนดกรอบเพศ

GLOSSY LIPS’

ฮิปฮอปจังหวะกลาง ๆ ชวนเพื่อนสาวมาแต่งตัว และเป็นตัวเองให้ได้สุด ๆ สนุกไปกับช่วงเวลาหน้าตู้เสื้อผ้าและกระจก

‘NEVERLAND’ feat. thaimilktea

เพลงสบาย ๆ แต่ซ่อนความหมายแสนเศร้า เมื่อความรู้สึกอบอุ่นนี้มันแสนดีราวกับความฝัน แต่เขาก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเป็นปีเตอร์แพนให้เธอ และเธอก็เป็นเวนดี้ให้เขาไม่ได้ วันนึงเขาอาจจะต้องฝืนปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความเป็นจริง

KALASIN DANCE’

เพลงสุดป่วนที่เอาแซมป์แหล่มาใส่ในแทร็คเท่ ๆ กับบีตสุดปั่นที่เราต้องโยกตาม การแหล่ เป็นวัฒนธรรมการร้องแบบพื้นบ้านที่สามารถพบได้ในพิธีกรรมของศาสนาพุทธ เพลงนี้เปิดพื้นที่ที่ให้ทุกคนได้เข้ามาสนุกกับวัฒนธรรมผสมจาก daynim

‘MY TYPE’ feat. ว่านวันวาน, Youth Brush, Bank Dogwhine

‘แค่มองตาก็รู้ใจ’ น่าจะเป็นเพลงที่อธิบายแทร็คนี้ได้ดี แม้สถานะจะไม่ได้ชัดเจน แต่เธอเป็นคนที่ทำให้รู้สึกว่าใช่ที่สุดในตอนนี้ ถ้าได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็น่าจะพอแล้วรึเปล่านะ

SHAKEDAT’

ชวนมาโยกย้ายส่ายสะโพกในแทร็คที่เสียงร้องเย้ายวนคลอไปกับบีตกรูฟ ๆ ที่ใส่เสียงเพอร์คัสชันเบา ๆ ให้ฟีลแบบแคริบเบียนสักนิด

WAY YOU DO’ feat. Zambug

เพลงนี้ชวนแร็ปเปอร์ตัวจี๊ด Zambug จาก flow dojo มาพ่นไรห์มเท่ ๆ ก่อนส่งเข้าเพลงสุดเพราะเพลงถัดไป

‘WAY WE ARE’ feat. Podchara Kumchaiskul

เสียงร้องของเพลงในสไตล์ r&b ช่วงต้นยุค 2000s กับเพลงบรรยากาศสวยงามขึ้นด้วยกีตาร์แจ๊ส โดยเนื้อหาบอกกับเราว่าการจะมาเป็นตัวเราได้ในทุกวันนี้ก็ต้องผ่านเราในหลาย ๆ เวอร์ชัน ที่ถูกหลอมรวมมาจากสิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับประสบการณ์มาทั้งสิ้น

‘CAMPGROUND’

อีกเพลงที่มู้ดเกาะกลุ่มมาจากเพลงก่อนหน้า เป็นเพลงที่เพลงแต่งให้กับแม่ที่ในอดีตอาจจะมีความไม่เข้าใจและมองว่าเป็นคนที่ไม่ยอมให้ทำอะไรตามใจ แต่อันที่จริงแม่เป็นคนที่จริงใจและหวังดีกับเราที่สุด และเธอก็หวังจะได้ใช้เวลาพูดคุยกับแม่ให้มากขึ้นกว่านี้

‘SNOOZE’

เก็ต: เพลงโปร่ง ๆ โล่ง ๆ เพลงสุดท้ายในอัลบั้ม ถ้าเราอัดแค่กีตาร์กับร้องเปล่า ๆ แล้วฟังจนจบเพลงมันก็จะเฉย ๆ มันจั๊กจี้ใจตัวเอง ไม่ได้ ก็ต้องไปหา reference ก็ไปเจอ The Beatles เพลงนึง มันแพนเสียงร้องไปด้านนึง กีตาร์ไปอีกด้านนึก แล้วมันไม่ได้แพนอย่างเดียวด้วย มีการใช้เกรนกีตาร์ดังเบาตามเสียงร้อง แล้วมันเกิดบางอย่างที่ทำให้เราหายจั๊กจี้ได้ รู้สึกว่ามันเท่

Visualization

เก็ต: คิดว่าที่วิชวลมันใกล้ ๆ กันในทุกเพลงอาจจะเป็นเพราะว่าเราทำในช่วงเวลาเดียวกันด้วย

กานต์: จริง ๆ เราไม่ได้วางคอนเซ็ปต์ให้ mv ต้องเกาะกลุ่มกันขนาดนั้น จะดูเป็นเพลง ๆ ไป อย่างเพลง ‘Invitation’ ก็เอาวิดีโอมายำ เอาบรรยากาศที่เราทำเพลงมา แค่นั้นเลย และคนตัดต่อก็คือพี่ยิ้มนั่นเอง คือมันจะดูออกว่าคนตัดต่อเพลงนี้คือคนเดียวกัน สามเพลงแรก ไม่รู้พี่ไกด์ทำด้วยหรือเปล่า อย่างเพลงที่ 4  mv มันต้องจัดเต็ม เลยจ้างผู้กำกับจริงจัง เหมือนเขาเป็นคนรู้จักพี่ยิ้ม พี่ไกด์อยู่แล้ว เขาก็อยากทำให้ daynim เลยเสนอไอเดีย สตอรี่บอร์ดมา เราก็ชอบ มันว่ะ ไม่เปลี่ยน เอา เราก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ไปสนุกกันตอนถ่าย mv เลยดูมีสีสัน

ไปร่วมงานกับไฮโซแฟร์ (แฟร์—อติวุฒิ เกิดพุ่ม) ได้ยังไง

เพลง: พี่ยิ้มก็ทาบทามมาแหละ พี่แฟร์มาดูพวกเราเล่นที่ Mash Brew สุดท้ายเขาก็ตกลงมาเป็น management team ให้ คือเขาก็ทำให้เบอร์ใหญ่มาก (Hugo, เป้ อารักษ์, ไอด้า ศิริวุฒิ) ก็งงว่าอีนี่ (daynim) มาไง คิดว่าอาจจะไวบ์วงด้วย ความลุย ความมัน ความงง อาจจะความบ้าของเราด้วยมั้ง แต่คอนเซ็ปต์วงเราก็ชัดหน่อย

กานต์: ผมว่ามันคือความรั่ว สังเกตว่าเขาก็รั่วเหมือนเรา อยู่ด้วยกันได้

daynim รู้สึกเติบโตจากวันแรกที่ปล่อยซิงเกิ้ลกันยังไงบ้าง

เก็ต: แน่นอนอยู่แล้วครับในแง่สกิล มันได้เล่นดนตรี ได้ฝึกตลอดเวลา แล้วการทำอัลบั้มสองมันต้องหาสิ่งใหม่ หา input เพิ่มเติมให้ตัวเองทั้งวิธีการเล่น ทั้ง mixing เพราะเก็ตมิกซ์เพลง daynim ทั้งหมดที่ผ่านมาอยู่แล้ว

โซ่: คิดว่าเป็นเรื่องวิธีคิดผลงานของวงครับ จากอัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มนี้ไม่เหมือนกันเลย คิดว่าอัลบั้มหน้าก็จะไม่เหมือนด้วย วิธีในการเริ่มคิด เริ่มตั้งแต่หาเรฟ โพรเซส มันจะต่างกันออกไป และรู้สึกว่าโตขึ้นเยอะ อีกอย่างที่คิดว่าโตขึ้นเยอะเลยคือการแมเนจเวลาของแต่ละคน

กานต์: เหมือนได้ความรู้เยอะขึ้น กานต์ไม่ได้เรียนดนตรีหรือฟังเพลงเยอะขนาดนั้น ก็จะต้องมาหาแซมป์ทำเพลงก็ได้รู้ว่ามันมีวงนี้ มีแนวเพลงนี้อยู่ เราก็ได้ input มาเรื่อย ๆ เหมือนไปเรียนประวัติศาสตร์แนวดนตรี เอามาปรับใช้… ใช่ ผมได้ความรู้ในวงการเพลงในการทำอัลบั้มนี้ขึ้นมาก เติบโตครับ

เพลง: ของเพลงก็จะมีสองประเด็นหลัก ๆ หนึ่งคือวิธีการร้องของเพลงคือ พอมันได้เดโม่ทุกอย่างมาก็สรุปกันว่าสกิลเพลงไม่ถึงที่จะถ่ายทอดมันออกมาเป็นไฟนอลได้ พี่ยิ้มก็เลยให้เพลงไปเทคคอร์สกับพี่ว่าน วันวาน เพลงรู้สึกว่าโชคดีมากที่แกรับ ตอนนั้นมันเหมือนเปิดโลกเพลงมาก บางอย่างเหมือนเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เพิ่งรู้ว่า เปลี่ยนนิดเดียวมันสร้างอิมแพค ได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็คือ เพลงเป็นคนอ้าปากไม่กว้างตอนร้องเพลง แล้วโดนบอกประจำให้อ้าปากกว้าง ๆ แล้วพอลองทำ ผลก็คือต่างกันคนละโยชน์เลย นอกนั้นคือการฝึกซ้อม มันเหมือนการปลดล็อกอะไรไม่รู้ในร่างกายเรา เพลงก็เป็นนักดนตรีคนนึงเหมือนกันที่มีเครื่องดนตรีของตัวเองคือเสียงร้อง พอได้ซ้อมบ่อยเหมือนออกกำลังกายทุกวัน จะรู้ทริคละว่าต้องทำยังไง เพลงรู้สึกว่าก็เก่งขึ้นในการใช้เสียงถ่ายทอดอารมณ์ผ่านเนื้อร้องที่เพลงก็แต่งเอง

แล้วก็การแต่งเนื้อเพลง คือพยายามรีเสิร์ชเยอะเหมือนจากศิลปินที่เพลงชอบ เช่น H.E.R. หรือ Lana Del Rey เพราะเพลงรู้สึกว่า ถึงดนตรีป๊อปมันจะป๊อป แต่ songwriter เขาก็เก่งอยู่ดี เขามีวิธีการเล่าของแต่ละคนที่ดี เพลงก็อยากพัฒนาตัวเองไปที่จุดนั้นเหมือนกัน

เก็ต: เสริมที่เพลงไปเรียนกับพี่ว่านมา เก็ตรู้สึกว่า ไอ้เพลงมันเป็นสาวขึ้นเว่ย สาวขึ้นจริง (เพลง: เพราะกูปากกว้างขึ้นอะหรอ) เวลาเพอฟอร์มบนเวที จริตอะไรมันมา เหมือนไปรับวิชามาจากพี่ว่าน

ฝากผลงาน

เพลง: ฝากอัลบั้มที่ออกมาด้วย เราตั้งใจทำกันมาก YEEZAA ขอขอบคุณที่ติดตามพวกเรามา และกรุณาติดตามเราต่อไป

ฟังอัลบั้ม PSSST! ได้แล้ว ที่นี่ https://adadaynim.lnk.to/PSSST

Daynim

Julian Cary ถ่ายทอดการรับรู้และเข้าใจในวัฏจักรชีวิต ผ่านงานอิมเพรสชันนิสม์ ‘Still Life For Small Ensemble And String Sextet’

‘When The Sky is Not Blue’ อัลบั้มที่ 3 ที่บันทึกการเติบโตในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจของ t_047